กัมพูชาจะไม่นำเรื่องพื้นที่พิพาทเข้าสู่วาระการประชุมเจบีซีกับไทย

กรุงเทพ 5 มิ.ย. – รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ลงวันที่ 4 มิถุนายนตำหนิเหตุการณ์ยิงปะทะกับทหารไทย พร้อมประกาศนำข้อพิพาทเรื่องดินแดนในพื้นที่ 4 จุดต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ โดยจะไม่นำเข้าวาระการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee- JBC) หรือ เจบีซี ไทย-กัมพูชา กลางเดือนนี้

แถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชา

รัฐบาลกัมพูชาได้ดำเนินนโยบายต่างประเทศบนรากฐานแห่งสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือระหว่างประเทศ เสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนร่วมกันตามที่กำหนดไว้ตั้งแต่สมัยอาณานิคมฝรั่งเศส

นับตั้งแต่ได้รับเอกราช ยกเว้นช่วงระบอบการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเขมรแดง กัมพูชายังคงยึดมั่นอย่างแน่วแน่ในการเปลี่ยนชายแดนร่วมเหล่านี้ให้เป็นเขตแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา แม้จะมีความท้าทายเกิดขึ้นตลอดเส้นทางที่ผ่านมา กัมพูชาได้ให้ความสำคัญกับการยุติปัญหาชายแดนอย่างสันติ แม้ในช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดเป็นครั้งคราวและมีการสูญเสียชีวิตของทหารผู้กล้าหาญที่ยืนหยัดปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติ

ความมุ่งมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงของรัฐบาลกัมพูชา ในการแก้ไขปัญหาอย่างสันติเป็นที่ประจักษ์ในการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมา รวมถึงการส่งข้อพิพาทไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ ซึ่งมีคำวินิจฉัยเป็นคุณแก่กัมพูชาในปี 2505 และอีกครั้งหนึ่งในปี 2556 ในข้อพิพาทชายแดนกับประเทศไทย การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาต่อกฎหมายระหว่างประเทศและการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ

อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ ที่ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 เวลาประมาณ 05:30 น. เกิดเหตุการณ์ที่ทหารไทยได้เปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารกัมพูชาในพื้นที่หมู่บ้านเตโชมรกต ตำบลมรกต อำเภอจอมกระสาน จังหวัดพระวิหาร – ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับการยอมรับอย่างยาวนานว่าเป็นจุดประจำการของทหารกัมพูชา เหตุการณ์นี้ส่งผลให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิตอย่างน่าเศร้า

รัฐบาลกัมพูชาได้ยื่นประท้วงอย่างเป็นทางการต่อการใช้กำลังที่ไม่ได้เกิดจากการยั่วยุนี้ ซึ่งถือเป็นการละเมิดอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชาอย่างรุนแรง และหลักการความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีที่บัญญัติไว้ในบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU ปี 2543 ระหว่างสองประเทศ

เหตุการณ์นี้เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่น่าเป็นห่วงหลายประการที่เน้นให้เห็นถึงข้อจำกัดของกลไกที่มีอยู่ในการแก้ไขข้อพิพาทตามแนวชายแดนร่วมของทั้งสองฝ่าย ด้วยเหตุนี้ และเพื่อประโยชน์ในการหาทางออกที่ยุติธรรม เป็นกลาง และยั่งยืน เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2565 รัฐบาลกัมพูชาได้ตัดสินใจที่จะส่งข้อพิพาทเกี่ยวกับพื้นที่อ่อนไหวสี่แห่ง ได้แก่ พื้นที่สามเหลี่ยมมรกต ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทเมือนโต๊ดและ ปราสาทตาควาย ไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ณ กรุงเฮก พื้นที่ทั้งสี่แห่งนี้ยังคงไม่ได้รับการแก้ไขให้ชัดเจนในเรื่องกรรมสิทธิ์และมีความอ่อนไหว ซึ่งอาจนำไปสู่ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นหากไม่ได้รับการแก้ไข

การตัดสินใจนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์ในการประชุมครั้งที่ 1 ของสภาแห่งชาติและวุฒิสภาในวันเดียวกันดังกล่าว

ในขณะที่กระบวนการตามกฎหมายที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศกำลังดำเนินอยู่ รัฐบาลกัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะหารือและดำเนินการทางการทูต กัมพูชาจะยังคงเข้าร่วมผ่านกรอบทวิภาคีที่มีอยู่ และจะจัดประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยการปักปันเขตแดน หรือ JBC ครั้งต่อไปในวันที่ 14 มิถุนายน 2565 ณ กรุงพนมเปญ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการมีส่งเรื่องไปยังศาลโลก ดังนั้นประเด็นเรื่องข้อพิพาทในพื้นที่ 4 แห่งที่กล่าวมาข้างต้นจะไม่ถูกบรรจุในวาระการประชุม JBC ที่กำลังจะมีขึ้น

กัมพูชาหวังว่าประเทศไทยจะร่วมมือกรณีที่มีการส่งเรื่องนี้ไปยังศาลโลกด้วยเจตนาที่ดี ความยุติธรรม การสร้างความไว้วางใจ มิตรภาพระยะยาว และความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้รับความร่วมมือ กัมพูชาก็พร้อมที่จะดำเนินการอย่างอิสระ

รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้ชาวกัมพูชาทุกคนรับทราบประเด็นเรื่องนี้ด้วยความสงบและความยับยั้งชั่งใจ และไม่เปลี่ยนให้เป็นเรื่องของความรู้สึกทางชาติพันธุ์หรือชาตินิยม รัฐบาลกัมพูชาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาความสัมพันธ์ปกติกับประเทศไทย ทั้งในด้านการค้า การท่องเที่ยว และด้านอื่นๆ ของความร่วมมือ เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของประชาชนของทั้งสองประเทศ

พนมเปญ 4 มิถุนายน 2568

ดูข่าวเพิ่มเติม


KUBET

KUBET

KUBET